วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Link to Blogger MKT 04


Link to Blogger MKT 04

                                                 Ichitan





ประวัติบริษัท HOTPOT


ประวัติบริษัท HOTPOT



   บริษัท ฮอท พอท จำกัด (มหาชน) (“บริษัท” หรือ ฮอท พอท”) จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2547 ในนามบริษัทฮอท พอท จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 16 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจร้านอาหารประเภทสุกี้ชาบู ภายใต้การบริหารของนางสาวสกุณา บ่ายเจริญ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่และผู้บริหาร ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและบุกเบิกธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2538 โดยเริ่มจากร้านอาหารสุกี้ชาบู ตามสั่ง หรือแบบ A La Carte (การสั่งอาหารที่มีอยู่ในเมนู) สาขาแรกในนามร้านโคคาเฟรช สุกี้” ที่ห้างตะวันออกคอมเพล็กซ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีลูกค้าเป้าหมายเป็นกลุ่มครอบครัว ภายใต้พื้นที่บริหารจัดการประมาณ 300 ตารางเมตร ซึ่งได้รับความนิยมมากและเป็นร้านสุกี้ร้านเดียวที่ขึ้นชื่อในจังหวัดฉะเชิงเทรา และต่อมาได้ขยายสาขาในห้างตามจังหวัดต่างๆ เช่น สระบุรี สุรินทร์ บุรีรัมย์ กำแพงเพชรและพิษณุโลกเป็นต้น โดยรูปแบบการขยายสาขาในขณะนั้นดำเนินการโดยจัดตั้งบริษัทต่างๆ เพื่อควบคุมร้านสาขาในแต่ละภูมิภาค

   กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา กลุ่มคนทำงาน และกลุ่มครอบครัวที่มีไลฟ์สไตล์ชอบความรวดเร็ว รักอิสระ ชอบรับประทานอาหารเป็นหมู่คณะ และเน้นความคุ้มค่า ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกตักอาหารที่ต้องการบนบาร์อาหารได้ด้วยตนเอง และมีอาหารหลากหลายในราคาไม่แพง ภายใต้กลยุทธ์การกำหนดราคาขายที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเภทร้านอาหารหรือแบรนด์ โดยมีราคาบุฟเฟ่ต์หลายระดับราคา ได้แก่ 299 บาทต่อคน (ไม่รวมเครื่องดื่ม) และ 319, 339, 349, 359 และ 519 บาทต่อคน (รวมเครื่องดื่ม) (ราคาบุฟเฟ่ต์ดังกล่าวเป็นราคาสุทธิที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) รวมทั้งมีการคิดราคาค่าปรับในอัตราคนละ 50 บาท ในกรณีที่ลูกค้าตักอาหารมากเกินความต้องการและรับประทานไม่หมด เพื่อสร้างวัฒนธรรมการบริโภคอาหารที่ดี และเป็นการใช้ทรัพยากรที่คุ้มค่าไม่ฟุ่มเฟือย อีกทั้งเป็นการลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นให้กับบริษัท และในกรณีที่รับประทานเกินเวลาที่กำหนด (สำหรับร้านอาหารบางแบรนด์) จะมีค่าปรับในอัตรา 20 บาทต่อคน ต่อทุก 10 นาที ที่รับประทานเกินเวลาที่กำหนด

  ปัจจุบัน บริษัทจัดแบ่งร้านอาหารทั้งหมดออกเป็น 6 แบรนด์ ดังนี้

ฮอท พอท อินเตอร์ บุฟเฟ่ต์


บุฟเฟ่ต์นานาชาติ สุกี้ ชาบูและอาหารนานาชาติหลากหลายสไตล์กว่า 100 รายการ รวมทั้งขนมหวาน ไอศกรีม และเครื่องดื่ม ในราคาเริ่มต้นที่ 339 บาทต่อคน (รวมเครื่องดื่ม) ในบางสาขาลูกค้าสามารถเพิ่มเตาปิ้งย่าง กรณีรับประทานแบบ 2 in 1 เพิ่มราคา 30 หรือ 40 บาทต่อคน


                 

      ฮอท พอท บุฟเฟ่ต์ แวลลู


บุฟเฟ่ต์นานาชาติ สุกี้ ชาบูและอาหารหลากหลายสไตล์ รวมทั้งขนมหวาน ไอศกรีม เน้นความคุ้มค่าโดยการตั้งราคาที่ถูก ในราคา 319 บาทต่อคน (รวมเครื่องดื่ม) และไม่จำกัดเวลาในการรับประทาน (ยกเว้นบางสาขาที่จำกัดเวลาในการรับประทาน 1 ชั่วโมง 30 นาที)

                              

           ฮอท พอท เพรสทีจ

บุฟเฟ่ต์นานาชาติระดับ 5 ดาว หลากหลายด้วยเมนูอาหารนานาชาติระดับพรีเมี่ยม พร้อมเสิร์ฟบนบาร์อาหารมากกว่า 100 เมนู เน้นบรรยากาศที่หรูหราและวางตำแหน่งทางการตลาดที่สูงกว่าแบรนด์อื่น ๆ ในราคา 519 บาทต่อคน (รวมเครื่องดื่ม) และจำกัดเวลาในการรับประทาน 1 ชั่วโมง 45 นาที


ฮอท พอท สุกี้ ชาบู

ร้านอาหารสุกี้ ชาบู แบบ A La Carte (การสั่งอาหารที่มีอยู่ในเมนู) เป็ดย่าง และน้ำจิ้มรสเลิศ“สูตรเด็ด” ตามสไตล์ดั้งเดิมของฮอทพอทก่อนที่จะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบร้านอาหารเกือบทั้งหมดมาเป็นสไตล์บุฟเฟ่ต์

ฮอท พอท ราเมน บุฟเฟ่ต์

ร้านราเมนแบบใหม่สไตล์ญี่ปุ่น ที่ให้บริการแบบบุฟเฟ่ต์บนบาร์อาหาร ในราคา 299 บาทต่อคน
(ไม่รวมเครื่องดื่ม) 
และไม่จำกัดเวลาในการรับประทาน

                                 

            ไดโดมอน


ร้านอาหารแบบบุฟเฟ่ต์แนวปิ้งย่างและชาบูสไตล์ญี่ปุ่น ที่มีเมนูอาหารอื่น ๆ เพิ่มเติมนอกเหนือจากการปิ้งย่างให้เลือกอีกมากมาย โดยสาขาไดโดมอนโฉมใหม่หรือที่มีการปรับปรุงใหญ่ของร้านแล้ว (Major Renovate) กำหนดราคาขายที่ 349 บาทต่อคน (รวมเครื่องดื่ม) และจำกัดเวลาในการรับประทาน
1 ชั่วโมง 30 นาที สำหรับสาขาที่ยังไม่ปรับปรุง ซึ่งเหลืออยู่ 2 สาขา กำหนดราคาขายที่ 299 บาทต่อคน (ไม่รวมเครื่องดื่ม) และไม่จำกัดเวลารับประทาน

1. คุณภาพสินค้า HOTPOT


คุณภาพสินค้า HOTPOT






คุณภาพของวัตถุดิบ HOTPOT
จะมุ่งเน้นที่ ความสด ใหม่ของอาหารไม่ว่าจะเป็นผักสดสะอาดเนื้อสัตว์อาหารทะเล จะต้องได้มาตรฐานตามที่กำหนด ซึ่งจะมีการจัดส่งจากส่วนกลางกระจายไปยังสาขาต่างๆ ทุกวัน นอกจากความสดของอาหารแล้วคงปฏิเสธกันไม่ได้ว่า ความอร่อยกลมกล่อมของน้ำจิ้มก็เป็นส่วนสำคัญในอาหารมื้อสุกี้ ซึ่งจะเป็นจุดที่ให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการในครั้งต่อๆไป








คุณภาพของการบริการHOTPOT
บริษัทมีการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการภายในร้านสาขาทุกแห่ง โดยการฝึกอบรมพนักงานในร้านอย่างสม่ำเสมอ พนักงานสามารถให้บริการได้อย่างน่าประทับใจ เนื่องจากพนักงานถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้งานบริการประสบความสำเร็จ รวมทั้งเพื่อสร้างความพึงพอใจ และรักษาสัมพันธภาพที่ดีกับลูกค้าให้กลับมาใช้บริการที่ร้านอีก



2. ความน่าเชื่อถือของตราสินค้า HOTPOT

 ความน่าเชื่อถือของตราสินค้า HOTPOT

ฮอท พอท อินเตอร์ บุฟเฟ่ต์


 ฮอท พอท บุฟเฟ่ต์ แวลลู


ฮอท พอท เพรสทีจ


ฮอท พอท สุกี้ ชาบู


 ฮอท พอท ราเมน บุฟเฟ่ต์


ไดโดมอน

     HOTPOTมีการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีสร้างตราสินค้าเป็นที่น่าจดจำทำให้ลูกค้าหรือผู้บริโภคจำจดได้ง่าย มีการตอบสนองความต้องการของลูกค้าหรือผู้บริโภคที่มีไลฟ์สไตล์ชอบความรวดเร็ว รักอิสระ ชอบรับประทานอาหารเป็นหมู่คณะ และเน้นความคุ้มค่า ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกตักอาหารที่ต้องการบนบาร์อาหารได้ด้วยตนเองมีรสชาติที่อร่อยถูกปากคนไทย และมีอาหารหลากหลายในราคาไม่แพง ทำให้ลูกค้าหรือผู้บริโภคประทับใจและเกิดความเชื่อมั่นในตราสินค้าเมื่อลูกค้าหรือผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นแล้ว จะเกิดความสบายใจที่จะบริโภค จึงเกิดการบริโภคซ้ำ เกิดการซื้อซ้ำ จะเป็นการนำมาซึ่งความจงรักภักดีในสินค้าและบริการ                                                                    

3. ความสะดวกในการซื้อHOTPOT



ความสะดวกในการซื้อ HOTPOT










    HOTPOTมีสาขาร้านอาหารที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งหมด 150 สาขา ประกอบด้วยร้านฮอท พอท 138 สาขา (ไม่รวมสาขาแฟรนไชส์ ฮอท พอท บุฟเฟ่ต์ แวลลู 1 สาขา) และร้านไดโดมอน 12 สาขา สาขาเกือบทั้งหมดเป็นร้านแบบบุฟเฟ่ต์ที่เสิร์ฟบนบาร์อาหาร มีเพียงร้านฮอท พอท 2 สาขา ในต่างจังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุรินทร์ และบุรีรัมย์ ที่เป็นร้านสุกี้ ชาบู แบบตามสั่ง (A La Carte) โดยมีการกระจายตัวอยู่ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด ครอบคลุมทุกภาคของประเทศ โดยแบ่งเป็นกรุงเทพฯ และปริมณฑล 61 สาขา ภาคกลาง 8 สาขา ภาคเหนือ 24 สาขา ภาคตะวันออก 13 สาขา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 28 สาขา ภาคตะวันตก 6 สาขา และภาคใต้ 10 สาขา

    ตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้า โมเดิร์นเทรด ศูนย์การค้าต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกสบายในการเข้าถึงของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยมีการวางแบรนด์หรือประเภทร้านอาหารที่แตกต่างกันไป ให้เหมาะสมในแต่ละพื้นที่หรือแต่ละประเภทของห้างที่แต่ละสาขาร้านอาหารนั้นตั้งอยู่ ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แตกต่างกัน เพื่อให้สามารถครอบคลุมกลุ่มลูกค้าได้ในทุกระดับ

4.การบริหารการขายของธุรกิจ HOTPOT


การบริหารการขายของธุรกิจ HOTPOT

การขายโดยใช้พนักงานขายและพนักงานต้อนรับทางด้านหน้าร้าน เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าที่มาทานเพื่อให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการใหม่หรือเกิดการซื้อซ้ำ





     การคัดเลือกวัตถุดิบ อาทิเช่น ผัก เนื้อสัตว์ รวมถึงเครื่องเทศต่างๆที่ใช้ในการทำน้ำจิ้มหรือซอสหมักที่มีคุณภาพ สดสะอาดตลอดเวลา คุณภาพของสินค้า เป็นสินค้าที่ดีทุกชนิดเพราะผ่านการคัดเลือกมาอย่างดี เพื่อให้ลูกค้าไว้วางใจในความสะอาด และคุณภาพของสินค้าใน แบรนด์ HOTPOT มีการจัดอาหารเป็นชุดๆ หรือเป็นเซ็ทต่าง ๆ เพื่อตอบสนองโจทย์ลูกค้า เช่น ชุดผักรักสุขภาพสำหรับผู้ดูแลเรื่องสุขภาพ เป็นต้น






  







มีการจัดโปรโมช่นตามช่วงเทศการต่างๆ เช่น มา4 จ่าย3มีการร่วมมือกันระหว่างบริษัทเช่น B2S และ ธนาคารกสิกรไทยจัดกิจกรรมและแจกส่วนลดรวมถึงของสัมนาคุณคืนกำไรให้ลูกค้าสถานที่มีความสะดวกสบาย ทุกสาขาจะอยุ่ในห้างสรรพสินค้า หรือศูนย์การค้าทั้งสิ้นดังนั้นสถานที่จึงมีความเหมาะสมสะดวกสบายอย่างยิ่ง